วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4


บันทึกการเรียนรู้ครังที่ 4 

วันศุกร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 08:30 - 12:30 น.


ความรู้ที่ได้รับ
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (ต่อ) 
  • เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา หรือภาษาอังกฤษคือ Children with Speech and Language Disorders 
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดที่ผิดปกติ ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
  1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง ภาษาอังกฤษคือ Articulator Disorders เสียงบางส่วนบางส่วนของคำขาดหายไป ความ เป็น คาม ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง กินจิน กวาด ฟาด เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย หกล้ม เป็น หก-กะ-ล้ม เสียเพี้ยนหรือแปล่งแล้ว แล้ว เป็น แล่ว 
  2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด ภาษาอังกฤษคือ Speech Flow Disorders พูดไม่ถูกต้องตวามลำดับขั้นตอน ไม่เป็นไปตามโครงสร้าง ของภาษา การเว้นวรรคไม่ถูกต้อง อะตราการพูดเร็หรือไม่ก็ช้าเกินไป จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง สละสลวย
  3. ความบกพร่องของเสียงพูด ภาษาอังกฤษคือ Voice Disorders เป็นความบกพร่องของระดับเสียง เสียงดังหรือค่อยเกินไป คุณภาพของเสียงไม่ดี 
เด็กที่มีความบกพร่องทางภาษา หมายถึง การขาดความสารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
  1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย ภาษาอังกฤษคือ Delayed Language มีความยากลำบากในการใช้ภาษามีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค ไม่สามารถสร้างประโยคได้ มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญาอารมณ์ สมองผิดปกติ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วนๆ
  2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่า Dysphasia หรือ aphasia อ่านไม่ออก (alexia) เขียนไม่ได้(agraphia) สะกดคำไม่ได้ ใช้ภาษสับสนยุ่งเหยิง จำคำหรือประโยคไม่ได้ ไม่เข้าใจคำสั่ง พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
  3. Gerstmann's syndrome > ไม่รู้ชื่อนิ้ว (finger agnosia) ไม่รู้ซ้ายขวา(allochiria) คำนวณไม่ได้(acalculia) เขียนไม่ได้(agraphia) อ่านไม่ออก(alexia)  

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบาๆ และอ่อนแรง ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก ออกเสียตัวสะกดไม่ได้ หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกกุกตะกัก ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
  • เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ หรือภาษาอังกฤษคือ Children with Physical and Health Impairments คือ เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง มีปัญหาทางระบบประสาท มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
1. โรคลมชัก ภาษาอังกฤษ คือ Epilepsy เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมองที่มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินไปที่ปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกันจะมีอาการ 5 แบบ ดังนี้ 1)การชักในช่วเวลาสั้นๆ(petit mal)  มีอาการเหม่อนิ่งเป็ฯเวลา 5-10 วินาที มรการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปากเมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในการท่าก่อนชักเด็กจะนั่เฉยหรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย 2)การชักแบบรุนแรง(grand mal)เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียงหมดความรู้สึกล้มลงกล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว2-5นาที จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู่ 3)มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที เหม่อนิ่ง เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูดหลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้และต้องนอนพัก 4)อาการไม่รู้สึกตัว(focal partial)เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบาอย่างโดยไม่รู้ เช่นการเดิเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก 5)ลมบ้าหมู (grand mal) เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อจะเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
การปฐมพยาบาลเมื่อเด็กมีอาการชัก
จับเด็กนอกตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก กาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะดูดน้ำลายเสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให่ทางเดินหายใจโล่ง จัดเสื้อผ้าให้หลวม ห้ามนำวัตถุใดใส่ในปาก ทำการช่วยหายใจโยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ

2. ซี.พี. ภาษาอังกฤษคือ  (Cerebral Palsy) คือ การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอดหรือหลังคลอด การเคลื่อนไหว การพูดพัฒนากาล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่างๆของสมองแตกต่างกัน 
2.1.กลุ่มแข็งแกร็ง (spastic) 
spastic hemiplegia อัมพัตครึ่งซีก
spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
spastic paraplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
spastic Quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
2.2.กลุ่มมีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง(athetoid , ataxia)
athetoid : อาการขยุกขยิกช้า หรือเคลื่อนไหวเร็วที่เท้า แขน มือ หรือที่ ใบหน้าของเด็กบางรายอาจจะมีคอเอียงปากเบี้ยวร่วมด้วย
ataxia : มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
 2.3.กลุ่มอาการแบบผสม(Mixed)
-  กล้ามเนื้ออ่อนแรง ภาษาอังกฤษคือ Muscular Distrophy เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆเสื่อมสลายตัว ทำให้เดินไม่ได้นั่งไม่ได้นอนอยู่กับที่ จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือความจำแย่่ลง สติปัญญาเสื่อมถอย
-  โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthpoedic) ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่่างไม่ติด เปป็นต้น ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ เช่น วัณโรค กระดูกหลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมีหนองเศษกระดูกผุ เป็นต้น กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักแสบ
- โปลิโอ ภาษาอังกฤษคือ Poliomyelitis มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็กแต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา ยืนไม่ได้หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม 
- โรคกระดูกอ่อน ภาษาอังกฤษคือ Osteogenesis imperfeta 
- โรคศีรษะโต ภาษาอังกฤษคือ Hydrocephlus 
- โรคข้ออัเสบรูมาตอยด์ ภาษาอังกฤษ คือ Rheumatooid arthritis
- โรคระบบทางเดินหายใจ เบาหวาน หัวใจ มะเร็ง และเลือดไหลไม่หยุด
- แแขนขาด้วนแต่กำเนิด ภาษาอังกฤษคือ Limp Deficiency

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ 
มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว ท่าเดินคล้ายกรรไกร เดินขากะเผลกมหรืออืดอาดเชื่องช้า ไอเสียงแห้งบ่อยๆ มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่อนปวดหลัง หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางๆบนแก้ม ริมฝีปาก หรือปลายนิ้ว หกล้มบ่อยๆ หิวและกระหายน้ำเกินกว่าเหตุ

💖      💖  💖  💖  💖  💖  💖  💖  💖  💖     💖


รูปประกอบกิจกรรม


ภาษาสก็อย


ลมบ้าหมู


ลักษณะอาการ ซี.พี.

โรคเท้าปุก


โรคศีรษะโต


โรคกระดูกอ่อน


โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์


โรคโปลิโอ


เด็กที่พิการแต่กำเนิด 


ให้นักศึกษาออกไปแสดงบทบาทสมมุติเป็นเด็กที่มีอาการแข็งเกร็ง


😊    😊 😊 😊 😊    😊 😊 😊 😊     😊

การนำความรู้มาประยุกต์ใช้

สามารถนำความรู้ในเรื่องการปฐมพยาบาลเด็กที่เป็นลมชัก ในขั้นเบื่องตนได้ เข้าใจในลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา และ เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ ทำให้รู้และนำไปปรับใช้ในการเรียนการสอนได้ในอนาคต

การประเมิน

ประเมินตนเอง >> ตั้งใจเรียนและร่วมทำกิจกรรมเป็นอย่างดีมีการจดบันทึก

ประเมินเพื่อน >> เพื่อนๆตั้งใจเรียนและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

ประเมินอาจารย์ >> อาจารย์มีการเตรียมการสอนมาเป็นอย่างดี มีการยกตัวอย่างให้เห็นภาพให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการเรียน อธิบายเนื้อหาแล้วทำให้เข้าใจ


E         N            D



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น